มาทำความรู้จักกับหลอด LED กันเถอะ

“หลอด LED” แต่หลายคนยังมีความสงสัยว่า หลอดที่บ้านเราเป็นหลอดตะเกียบหรือหลอดทอร์นาโดก็ดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนเป็นหลอด LED ทำไมกัน หรือบางคนที่อยากเปลี่ยนเป็นหลอด LED ก็อาจลังเลว่า มันใช้แทนกันกับหลอดที่บ้านได้ไหม มันจะคุ้มไหมนะที่จะเปลี่ยน เรามาลองไขข้อข้องใจกัน 

                                                                   

      ท่านๆทั้งหลาย ที่มีอายุประมาณนึง (ประมาณว่าเลยหนุ่มแต่ยังไม่แก่) คงจะรู้จักกับไอ้เจ้าหลอดไส้ (หรือหลอดอินแคน) ที่มันกลมๆ ใสๆ สว่างจ้าแสบตา เพราะมันใช้หลักการให้กระแสไฟฟ้าไปเผาไหม้ไส้และไส้ร้อนจนเปล่งแสงสว่าง ซึ่งต้องขอขอบคุณ คุณเอดิสัน (Thomas Alva Edison) แม้มันจะร้อนไปหน่อยแต่ก็ช่วยให้โลกเรามีแสงสว่างในยามค่ำคืน 

แต่ด้วยความที่มันไม่สะดวก เพราะมันร้อนมาก ใครไปโดนหลอดมือก็พอง และที่สำคัญ อายุมันสั้นแค่ 1,000 ชั่วโมง ใช้ได้ไม่นานก็ต้องซื้อใหม่ พูดง่ายๆคือไม่ทน จึงมีคนคิดหลอดไฟชนิดใหม่ขึ้น ก็คือหลอดนีออน แล้วต่อยอดมาเป็นหลอดคอมแพค (หรือหลอด CFL- Compact Florescent Lamp) ก็ไอ้ที่เราเรียกว่าหลอดตะเกียบนั่นแหละ ข้อดีมันก็คือ ร้อนน้อยลง อายุการใช้งานนานขึ้นถึง 8,000 ชั่วโมง และประหยัดค่าไฟมากขึ้น แถมให้แสงสว่างเท่าเดิม แต่เจ้าหลอดตะเกียบเนี่ยมันไม่สวยงามเวลาใช้ เพราะถ้าเราต้องการแสงมากๆ (วัตต์สูง) ก็ต้องใช้หลอดที่แท่งมันยาวขึ้น เวลาใช้มันก็เลยยาวทะลุโคมไฟ ดูแล้วขัดลูกตา ก็เลยมีการพัฒนาต่อมาเป็นแบบหลอดบิดเกลียวหรือหลอดทอนาโด เพื่อให้หลอดมันสั้นลงแต่สว่างเท่าเดิมไงล่ะ แต่หลอดพวก CFL นี้มันมีข้อเสียที่สำคัญคือ มันมีสารพิษ (สารปรอท) อยู่ในหลอด และมันปล่อยรังสี UV ได้ แม้จะน้อยมากก็ตามแต่คงไม่มีใครอยากเสี่ยง

ดังนั้นถึงเวลาแล้ว ที่คนเราจะพัฒนาหลอดชนิดใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน เอาแบบหลอดสวย หุ่นเท่ห์ สว่างเท่าเดิม อายุการใช้งานนานๆ และต้องไม่มีสารพิษ และแล้วในที่สุด หลอด LED ก็ถือกำเนิดขึ้นมา ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟชนิดนี้ คือ ชาวญี่ปุ่น 3 ท่าน ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลไปเรียบร้อย (ใครอยากรู้ชื่อหลังไมค์มาได้นะ)

          หลอดไฟ LED (Light-Emitting Diode) มีหลักการทำงานง่ายๆคือ เป็นหลอดไฟที่ให้แสงสว่างโดยตรงจากกระแสไฟฟ้า (ไม่ต้องไปเผาให้ไส้ร้อนเพื่อให้เกิดแสง) ดังนั้นหลอดจึงกินกระแสไฟฟ้าน้อยเพื่อให้เกิดแสงสว่าง (ประหยัดไฟ) ที่สำคัญไม่ร้อนเลยจ้า เปิดทั้งวันก็เอามือจับได้ (ถ้าวัตต์น้อยๆนะ) แถมอายุการใช้งานนาน....มากๆ เชื่อไหมว่าประมาณ 50,000 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น (คนขายแอบร้องไห้) เรียกว่าใช้กันจนลืมเลยว่าซื้อมาเมื่อไร ที่สำคัญที่สุด คือ มันไม่มีสารพิษใดๆในหลอดเลย แม้แต่วัสดุที่ใช้ทำหลอดก็เป็นโพลีเมอร์ที่ย่อยสลายง่ายกว่าหลอดรุ่นเก่าๆ สิ่งเดียวที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นข้อเสีย ก็คือเรื่องราคา แต่จะแอบกระซิบให้ว่าตอนนี้ราคามีแต่ถูกลงๆอย่างไม่น่าเชื่อ (คนขายร้องไห้หนักมาก)

          ถ้าท่านกำลังมองหา หลอดไฟที่สว่าง ประหยัด ทนทาน ไม่ร้อน ไม่มีสารพิษ ปลอดภัยกับทุกคนในบ้าน เชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรคุ้มค่ากว่าการเปลี่ยนมาใช้เป็นหลอดไฟ LED อีกแล้ว และจะคุ้มยิ่งขึ้นถ้าท่านซื้อจาก www.lamp2home.com เพราะเราขายของคุณภาพโรงงาน ในราคาคลองถม ลองเลือกชมกันดูได้นะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.tadumhw.com/

http://www.psptech.co.th/

www.wemall.com

www.thaipublica.org/2014/led